วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

การทอดทิ้ง คนเลว คนไม่ดี คนมีปัญหา เป็นเรื่องที่ง่ายและทำได้ทันที แต่สิ่งที่ยากและเป็นประโยชน์กว่าก็คือ การอยู่กับคนเลว การอยู่กับคนไม่ดี การอยู่กับคนมีปัญหา แล้วสอนเข้าให้เป็นคนดี
แก้วเปล่ามันเทน้ำออกไม่ได้ ถ้าในแก้วไม่มีน้ำ วาจา และการกระทำ มันคงไม่หยาบคาย ถ้าในใจมันว่างเปล่าจากกิเลส
ความล้มเหลวแรก คือ ความกลัวต่อความล้มเหลวจนไม่กล้าที่จะเริ่ม
ถ้าไม่เริ่มก้าวแรก ก็ไม่มีก้าวที่สอง และก้าวต่อๆไป
ถูก-ผิด ถ้าไม่มีข้อตกลงร่วม เป็นมาตรฐานรองรับ ก็เหลือแต่หัวใจเท่านั้นแหละเป็นเครื่องตัดสิน ถูกใจมันก็ถูก ผิดใจมันก็ผิด
จุดที่ไกลที่สุดบนโลกใบนี้ คือ จุดที่เรายืนนี่แหล่ะ  โลกเราก็เหมือนลูกบอล ถ้าท่านต้องเอาเชือกพันรอบลูกฟุตบอล ตำแหน่งที่ทำให้เชือกยาวที่สุด ก็คือ ตำแหน่งเริ่มต้นนั่นแหล่ะ

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

หลายคนเรียกร้องสิทธิ์ในตัวของคนอื่น แต่ไม่เคยคิดถึงการมีสิทธิ์ในการเรียกร้อง พ่อแม่เรียกร้องสิทธิ์ต่างๆในตัวลูกได้ เพราะเคยเลี้ยงดู ป้อนข้าว ป้อนน้ำ แต่สำหรับบางคน ไม่เคยทำกับข้าวให้เขากิน น้ำซักแก้วยังไม่เคยเทให้ เราจะมีสิทธิ์อะไรในตัวเขา
ร่างกายเรา เมื่ออุณหภูมิเกิดการเปลี่ยนแปลงกระทันหัน มันปรับตัวไม่ทันมันก็ไม่สบาย
หัวใจ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่หัวใจยังไม่ทันตั้งตัว หัวใจมันก็ป่วยได้เหมือนกัน
ชีวิตก็เหมือนกับเกมฟุตบอล วิ่งตามลูกบอลมาก ก็เหนื่อยมาก หยุดวิ่งตามก็หยุดเหนื่อย สำคัญคือหยุดให้จริง ไม่ใช่เตะทิ้งแล้ววิ่งตามใหม่ สุดท้ายก็เหนื่อยไม่รู้จบ
ตัดความหวังออก ให้เหลือแต่ความรัก เราจะได้เห็นรักที่บริสุทธิ์ เหมือนกับเราให้อาหารปลา เราไม่เคยหวังว่าปลาจะตอบแทนอะไรเรา แต่เพียงเราได้เห็นเขาได้กิน ได้เห็นความเจริญก้าวหน้าของเขา ได้ทำหน้าที่จิ๊กซอตัวหนึ่งที่เข้าไปเติมเต็มชีวิตของเขา นั่นแหล่ะ ความรักที่บริสุทธิ์ มันมีในตัวเราอยู่แล้ว แต่เราเคยมองเห็นมันหรือเปล่า
ต่างคนต่างความคิด เราไม่สามารถคิด และตัดสินอะไรแทนคนอื่นได้ อุจจาระเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยงมากสำหรับมนุษย์ แต่สำหรับกุ๊ดจี่ มันคืออาหารอันโอชะ
เวลาสับสนกับความรู้สึกของตัวเองว่ากำลังอยู่ในความรู้สึกแบบไหน ลองนั่งฟังเพลงดูสิ บทเพลงเป็นศิปละทางอารมณ์ที่ถ่ายทอดความรู้สึกมนุษย์ออกมา ไม่แปลกที่มันจะตรงกับความรู้สึกของแต่ละคน ที่อยู่ในแต่ละสถานการณ์ เพลง เพราะเพลงเดิม เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน มันก็ไม่เพราะเหมือนเดิมแล้ว
รถยนต์ ถ้าวิ่งไม่เต็มร้อยก็ยากที่จะรู้จักความเร็วที่แท้จริง คนมีรัก ถ้ารักไม่เต็มร้อย ก็ยากที่จะเข้าใจรักที่แท้จริง
ภาษาโลกต่างกัน แต่ภาษาใจเหมือนกัน ชาติและภาษาไม่ใช่อุปสรรคของความรัก
รักแท้ คือ ได้รัก ได้ปรารถนาดีต่อกัน ได้มอบสิ่งดีให้กัน ได้ช่วยเหลือกัน
คู่แท้ คือ ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ถึงเป็นทุกข์ก็ขาดกันไม่ได้
รักแท้อาจจะไม่ใช่คู่แท้ แต่ คู่แท้ เกิดมาจาก รักแท้
อดีตมีไว้ให้คิดถึง อนาคตมีไว้ให้ใฝ่ฝัน ปัจจุบันมีไว้ให้สร้าง สร้างประวัติศาสตร์ให้อดีต สร้างฐานที่มั่งคงสำหรับอนาคต
คนปลูกดอกไม้ก็เพราะชอบชีวิตของดอกไม้ ไม่ใช่ชอบเฉพาะ...ดอก...ของดอกไม้
การที่จะรักใครซักคนไม่ใช่รักเฉพาะบางส่วนของเขา แต่ต้องรักที่ชีวิตเขาเป็น
จริงๆแล้วเนื้อแท้ของความรัก ไม่ใช่ความทุกข์ เนื้อแท้ของความรักคือความสุข แต่มีองค์ประกอบอื่นเจือปนทำให้ความ ทุกข์เกิด ความรักมันก็เหมือนน้ำใส สีชมพูตกใส่ก็เป็นสีชมพู สีดำตกใส่ก็เป็นสีดำ ตัวเราก็เหมือนช่างผสมสี จะทำให้รักเป็นสีชมพูหรือสีดำ
ตามหลักภาษา ความรัก เป็นนามแท้ แต่ตามหลักชีวิต ความรักทำหน้าเป็นเหมือนคุณนาม อยู่กับชีวิตใคร ก็ทำให้ชีวิตคนนั้นมีความหมายมากขึ้น
บุพเพสันนิวาส ให้ได้แค่โอกาสมาพบกัน จะอกหักหรือสมหวังก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราเอง
ถ้ารู้จักพอกับสิ่งที่มี ก็จะรู้สึกดีกับชีวิตตัวเอง ตอนเกิดมาก็ไม่เห็นมีอะไร มีวันนี้ได้เราได้กำไรมากเกินพอแล้ว
ความรักก็เหมือนภาษา ดูไร้ค่าถ้าไม่เข้าใจ

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

เพราะชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราเองจึงต้องปรับตัวเองอยู่ตลอดเวลา คำว่า พอ ไม่ใช่ พอแค่นี้ แต่หมายถึงพอกับชีวิตในปัจจุบัน มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะหยุดอยู่กับปัจจุบันโดยไม่ทำอะไรเลย ในเมื่อลมหายใจเพื่อวันพรุ่งนี้ยังมีอยู่
นักโทษที่ถูกบังคับให้พูด อาจไม่ได้พูดความจริง เพราะเขาถูกบังคับเขาถึงพูด
นักรักที่ถูกบังคับให้รัก เขาอาจจะไม่ได้รักจริง เพราะเขาถูกบังคับให้รักเขาถึงรัก
ความรักที่บริสุทธิ์ควรเกิดจากอิสรภาพทางการตัดสินใจ ให้โอกาสเขาได้เปรียบเทียบว่า เราคือคนที่ใช่หรือเปล่า
ทำตัวให้มีค่า ค่าก็มี ทำตัวให้หมดค่า ค่าก็หมด ทุกสิ่งที่สื่อสารออกมาจากตัวเราล้วนเป็นสิ่งที่สร้างค่า หรือทำลายค่าของเราทั้งหมด คำว่าค่าในที่นี้ไม่มีมาตรฐานรองรับ ไม่มีข้อตกลงร่วมของสังคมรองรับ ไม่มีรัฐธรรมนูญรองรับ แต่เราก็รู้สึกได้ถึงค่าที่เรามี คุณลักษณะของคำว่า ค่า ในที่นี้ก็คือ เป็นที่ต้องการของคนรอบข้าง และคนทั่วไป
ความ รักก็เหมือนกับยาเสพติด มีความสุขทุกครั้งที่ได้เสพ ไม่มีเสพก็กระวนกระวาย เสพติดแล้วเลิกยาก ต้องใช้เวลาในการรักษา ถ้าใจไม่เข้มแข็งพอ ก็มีโอกาสกลับไปเสพติดใหม่เหมือนเดิม
ฤดูกาล เป็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่งทางธรรมชาติ ที่มาๆไปๆ ปัญหาต่างๆของชีวิตก็เหมือนฤดูกาล ฤดูหนาวไม่ได้มีตลอดทั้งปี ความมืดก็ไม่ได้ปกคลุมตลอดเวลา
ความอกหัก เป็นอุบัติเหตุทางความรู้สึก ที่จะนำเราไปสู่ความรักที่ยิ่งใหญ่
มีมากก็ทุกข์ มีน้อยก็ทุกข์ ไม่มีก็ยังเป็นทุกข์ ถึงรู้ว่าทุกข์แต่ก็ยังอยากจะมี นี่แหล่ะความรัก
วิทยาศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่แน่นอน และมีคำตอบที่จัดเจน พิสูจน์ได้ด้วยการทดลองด้วยเหตุ ด้วยผล
ความรัก เป็นความรู้สึกไม่แน่นอน ความรู้สึกเปลี่ยนไปตามบริบทของปัจจุบัน พิสูจน์ได้ด้วยการสังเกตุการกระทำ ตัดสินด้วยใจเรา

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

การไม่ยึดติด ไม่ใช่การไม่รับรู้อะไร แต่มันคือการรับรู้การสัมผัส(ผัสสะ) กินข้าว เรารู้รส แต่เราไม่ยึดติดในรส ฟังเพลง รู้ว่าเพลงเพราะ สุขเวทนาต่างๆที่เกิดขึ้น เรารับรู้ เพราะเรามีความรู้สึก(เวทนา) เมื่อมันหมดไปก็ปล่อยให้มันหมดไป ไม่เป็นทุกข์ นี่แหล่ะคือการไม่ยึดติด
ความทุกข์ มันไม่สามารถมีอยู่ได้ตลอดไป ถึงเราไม่ได้แก้อะไร สักวันมันก็ตายไปเอง
จิตว่าง ในความหมายพุทธไม่ใช่จิตแบบเดียวแบบทารกแรกเกิดที่ว่างจนไม่มีอะไแต่หมายถึงจิตที่ว่างจากการปรุงแต่งของกิเลส มีปัญญากำกับอยู่เสมอ อุปมาเหมือนมือว่าง ไม่ใช่ไม่มีมือ แต่มีมือที่ไม่มีสิ่งสกปรก มีมือถือสิ่งที่เป็นประโยชน์
มองไม่เห็นดวงอาทิตย์ ใช่ว่าจะไม่มีดวงอาทิตย์ มองไม่เห็นดาว ใช่ว่าจะไม่มีดาว มองไม่เห็นทาง ใช่ว่าจะไม่มีทาง
ความสุขไม่ได้เกิด เพราะมีมาก เพราะยิ่งใหญ่ แต่ความสุขเกิดได้ เพราะพอใจ เพราะพอเพียง
โลกทั้งใบอยู่ที่มือเราสร้า โชครางเป็นแค่เครื่องเตือนสติ
เราวิ่งหนีคนรักได้ แต่เราวิ่งหนีความรักไม่ได้

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

ความรักเป็นแค่องค์ประกอบส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ก็สามารถตัดสินชีวิตทั้งชีวิต
เพียงรู้สึกว่าไม่มีคนเข้าใจ ต่อให้ยืนอยู่กับคนนับร้อย ก็จะรู้สึกว่าไม่มีใคร
เพียงรู้สึกว่ามีหนึ่งคนที่เข้าใจ ต่อให้ไม่มีใคร ก็ไม่รู้สึกว่าอยู่ลำพัง
ความรักมันก็คือความรู้สึก เหมือนกับความรู้สึกหลายๆอย่าง ตอนมันมีเราวิ่งหนีมันไม่พ้น และเมื่อเวลามันหมด เราก็ตามหามันไม่เจอ
เคยเป็น...เช่นท่าน...มาก่อน
ตื่นนอน...ไม่เห็น...ทางออก
มันเป็น...มายา...ลวงหลอก
เมฆหมอก...มืดมิด...ปิดทาง
.......................................
เคยเป็น...เช่นท่าน...มามาก
ลำบาก...เดียวดาย...อ้างว้าง
สุขภาพ...ความรัก...บาดหมาง
หมดทาง...เยียวยา...หัวใจ
.......................................
เคยเป็น...เช่นท่าน...เหมือนกัน
ความฝัน...ล่องลอย...เรื่ยยไป
ทุกอย่าง...ไม่เป็น...ดังใจ
หมดไฟ...หมดหวัง...หมดตัว
.......................................
ฟ้ามืด...คงไม่...ยาวนาน
ปัจจุบัน...มันอาจ...มืดมัว
เวลา...ช่วยได้...อย่ากลัว
เพียงตัว...ของท่าน...มั่นคง
.......................................
อุปสรรค คือเพื่อนแท้บางเวลา มาเพื่อสร้างสีสันให้กับชีวิต เพื่อนคนนี้จะสอนให้เราเข้มแข็ง ยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง เมื่อเพื่อนคนนี้จากไปแล้ว
การคิดไปเอง เป็นการตัดสิน โดยใช้ตรรกะทางความรู้สึก และคำตอบมันก็เป็นได้ทั้ง จริง และเท็จ
การทำงานมันคือเกมส์ อุปสรรคมันคือด่านให้เราเก็บแต้ม  อุปสรรคคือสิ่งที่ทำให้เกมส์มีรสชาติ เล่นเกมส์ไม่จำเป็นต้องชนะ แค่มีความสุขในเกมส์ก็พอแล้ว
ทุกคนมีบทบาทแต่ละบทบาทที่ต่างกัน และแต่ละเวลาบทบาทก็เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และทุกบทบาทก็มีความสำคัญพอๆกัน นายกกับคนเก็บขยะดูต่างกันมากสำหรับสังคมมนุษย์ แต่สำหรับสุนัขจรจัด มันคงไม่ได้มองนายกกับคนเก็บขยะแตกต่างกันเท่าไหร่หรอก
อย่าพึ่งตัดสินว่า ตัวเองทำไม่ได้ ให้โอกาสตัวเองได้ทำก่อน มันคงไม่ยุติธรรมสำหรับตัวเอง ถ้าต้องพิพากษาตัวเองว่าทำไม่ได้ทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้ทำ

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

เราจะไม่แพ้ ถ้าเราไม่เปรียบเทียบกับใคร
เราจะไม่ผิดหวัง ถ้าเราไม่ได้สร้างเป้าหมาย
คุณค่าของแต่นาทีอยู่ที่เราสร้างให้มัน ทำให้มีค่ามันก็มีค่า ปล่อยให้ไร้ค่ามันก็ไร้ค่า ทำหน้าที่ในแต่ละเวลาให้ดีที่สุด เป็นหมอให้เต็มที่ตราบเท่าที่คนฝากชีวิตไว้เขายังมีหวัง เป็นคนรักรักให้เต็มที่แม้แทบจะไม่เหลือเวลาแล้ว
วันนี้ไม่ใช่พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ก็ไม่ใช่วันนี้ สิ่งที่มีในวันนี้ อาจไม่มีในวันพรุ่งนี้ หากบางสิ่งทำให้เรามีความสุขในวันนี้ก็ให้อยู่กับมันให้เต็มที่ เพราะวันนี้เรายืนยันได้ว่าเรายังมีมัน ส่วนพรุ่งนี้เรายืนยันอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ลมหายใจของเรา
ร่างกายบริโภคสิ่งใด้ ย่อมมีสิ่งนั้น ใจจมอยู่กับสิ่งใด ใจก็ย่อมมีสิ่งนั้น ให้โอกาสใจได้อยู่กับสิ่งดีๆ เพื่อใจจะได้นำกายทำสิ่งดีๆ เพราะชีวิตมีใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว
มองหาประโยชน์ เราจะได้ประโยชน์เป็นส่วนใหญ่ มองหาโทษ เราจะเห็นโทษเป็นส่วนใหญ่ เรื่องหนึ่งเรื่อง ควรแยกมุมมอง แล้วเลือกเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ เว้นสิ่งที่เป็นโทษ ชีวิตเราจะได้ไม่เสียโอกาส
ดวงจันทร์ส่องแสงได้เพราะอาศัยดวงอาทิตย์ ไม่มีดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ก็ไม่มีแสง ชีวิตเรามีค่าเพราะความสามารถของเรา ไม่ใช่อาศัยโชควาสนาช่วย
หิ่งห้อย ดูมีค่าในความมืด แต่ดูไร้ค่าในที่สว่าง ชีวิต หากรู้จังเลือกบริบทอันเหมาะสม ก็มีคุณค่าเสมอ
ไม่มีอะไรดีที่สุด ถ้าใจเรายังต้องการพัฒนาต่อ
โอกาส อยู่ที่มันสมองกับสองมือเรา ไม่ใช่อยู่ที่การตัดสินใจของผู้อื่น เราต้องเป็นผู้เลือกที่จะเป็น อย่าปล่อยให้ชีวิตลอยไปตามบุญเก่า สร้างความสามารถให้ตนเองเข้าไว้ แล้วโอกาสจะวิ่งตามหาเรา
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ เริ่มต้นจากความฝันอย่างมีทฤษฎี
ความรัก คือความพอใจที่มีต่อกัน ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว สวยกับหล่อ หรือนางฟ้ากับหมาวัด เป็นไปได้ทั้งนั้น
ธรรมชาติให้ปากแค่หนึ่งเดียว แต่มีหูสองข้าง เพราะต้องการให้คนฟัง มากกว่าพูด

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

สุข ทุกข์ เกิดเพราะใจคิด และการกระทำของเราส่วนมาก เป็นเหตุทำให้ใจคิด
สุข ทุกข์ เป็นเหมือนฤดูกาล ผ่านมา แล้วผ่านไป ไม่ควรเอาใจไปยึดติด
ชีวิตไม่มีวันสิ้นสุด ตราบที่เรายังมีลมหายใจ เป้าหมายของชีวิตก็ไม่มีวันสิ้นสุด ตราบที่เรายังมีชีวิต ชีวิตมีแต่เดินไปเรื่อยๆ ๆ แต่อย่าไปคิดถึงเป้าของชีวิตเลย สิ่งที่ควรคิดคือ เราจะมีความสุขทุกวินาที คนที่น่าสงสารที่สุด ก็คือคนที่รอความสำเร็จบางช่างของชีวิตถึงจะมีความสุข แต่คุณเลือกได้ ไม่ต้องรอความสุข เราสามารถมีความสุขได้ในทุกวินาที แม้ก้าวไม่ถึงเป้าของชีวิต
หนึ่งวันมี  24 ชั่วโมง อย่าเอาเวลาส่วนมากไปจมอยู่กับความทุกข์ ให้โอกาสความสุขบ้าง ชีวิตจะได้ไม่รู้สึกขาดทุน
ผลของโอกาส มี 2 ทาง คือ โอกาสแจ้งเกิด กับ โอกาสแจ้งดับ ผลจะออกแบบใดขึ้นอยู่กับการใช้โอกาส
พัฒนาคนต้องเริ่มที่ใจ ถ้าใจมีคุณธรรม ทุกอย่างจะดีเอง
การพยายามเอาชนะคน เป็นเหมือนการพยายามแพ้กิเลส ชนะเมื่อไหร่ ก็แพ้เมื่อนั้น
อุปสรรค คือโอกาสที่เราจะได้สร้างผลงาน
เมื่อชีวิตยังอยู่ในวัยรัก อกหักไม่ใช่เรื่องใหญ่ ฟ้าไม่มีวันมืดเสมอไป ขอเพียงเราเข้มแข็งเอาไว้ โอกาสอันยิ่งใหญ่มันต้องเป็นของเรา
เมื่อความรักไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราหวัง สิ่งที่เราควรทำก็คือขอบคุณใครบางคนที่ทำให้เราได้มีโอกาสได้สร้างรักอันยิ่งใหญ่ ไม่มีเขารักนี้ก็คงเกิดขึ้นไม่ได้
ทุกชีวิต ต้องการโอกาส ความรักก็เป็นอีกชีวิตหนึ่งบนโลกของความรู้สึก ที่ต้องการโอกาสเหมือนกัน แต่โอกาสของความรัก ต้องเกิดจากการสร้างของคนสองคน ขอเพียงคนสองคนเปิดโอกาส ความรักก็พร้อมจะเปิดตัวเสมอ เพียงหนึ่งคนที่ปิดโอกาส ความรักก็แทบไม่เหลือลมหายใจแล้ว
เดินหน้าไปทุกทิศ เป็นมิตรกับทุกคน
ความรักไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ กี่คนต่อกี่คนที่ผ่านเข้ามา แต่สุดท้ายใจก็เลือกที่จะรักเพียงบางคน หากคิดเป็นเปอร์เซ็น ก็คงเป็นหนึ่งในร้อยเท่านั้นที่ใจเลือกจะรัก ความรักถึงจะเกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็มีสิ่งที่เกิดขึ้นยากกว่า นั่นก็คือ การเลิกรัก
เราทุกคนก็เหมือนแม่กุญแจ รอใครบางคนที่เป็นเหมือนลูกกุญแจที่ใช่มาไข ลูกกุญแจกี่ลูกต่อกี่ลูกที่เข้ามาไขต่างก็ไม่ใช่ ท้ายที่สุดก็มีเพียงลูกกุญแจลูกเดียวเท่านั้น คือลูกกุญแจที่ไขหัวใจของเราได้ แม่กุญแจและลูกกุญแจต่างเป็นของมีค่าของกันและกัน ในวันที่ลูกกุญแจหายไป แม่กุญแจก็ไร้ค่าทันที
มีคนไม่กี่คนหรอกที่ใจจะเปิดรับและมีคนไม่กี่คนหรอกที่ใจเรารับแล้วจะออกไปจากใจเราได้
พระพุทธรูปนั่งนิ่งๆ คนยังเอาไปนินทา คนธรรมดาไม่โดนนินทา ไม่มีในโลก
ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรสามารถอยู่ยั่งยืนได้ เราเองตัวคนเดียวยังเปลี่ยนไปทุกวัน นับประสาอะไรกับสิ่งที่ต้องอาศัยคนสองคน

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

เราต่างกันเพราะความคิด เราเสมอกันในฐานะเป็นสิ่งมีชีวิตบนโลก
ประเทศเอธิโอเปีย หรือเคนย่า ยากแค้นแสนสาหัส แต่ก็ไม่ได้แยกสีทะเลาะกันเหมือนเรา เรามีพร้อมทุกอย่าง ทั้งของกิน ที่อยู่อาศัย ประเทศไทยเรามีปัญหาหรือว่าตัวเราไม่รู้จักพอ
 ความรักคือระเบิดเวลา มันถูกตั้งค่าไว้ตั้งแต่เราเกิดมา ให้มันระเบิดช่วงเราวัยรุ่น(ทำไมมันระเบิดช้าจัง) จะเห็นว่าเกิดมาเราก็รักไม่เป็น เมื่อถึงเวลามันระเบิด สวยหล่อ ดำขาว พิการ มันก็ยังมีความรักเป็น ตาบอดมาตลอดชีวิตก็ยังมีความรัก หลังจากการระเบิดอย่างรุนแรงแล้วก็จะเหลือแต่กลิ่นควันไฟรักจางๆ และค่อยๆหมดไปในที่สุด
ความรักเป็นกำไรของชีวิตที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย เพียงแค่รัก ก็ได้กำไรแล้ว
ยังไม่ได้ทำ อย่าตัดสินว่าทำไม่ได้ ยังทำไม่เต็มที่ อย่าคิดว่าทำได้ไม่ดี
คนคนหนึ่งประกอบด้วยขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ เมื่อตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้สัมผัสกับสื่อต่าง สัญญาในตัวเราจะทำหน้าที่จดจำสิ่งนั้น และบันทึกเอาไว้ เราอาจจะไม่รู้สึกตัวกับกระบวนการที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เหมือนกับสื่อที่เคยชม สัญญา(สันดาร)เก่าจะถูกดึงออกมาใช้งาน หาเวลาชมสื่อดีๆวันละครั้งนะครับ หนึ่งเดือนผ่านไปคุณจะเห็นจิตใจที่ดีงามของตัวเอง

ความรักเหมาะสำหรับผู้ที่ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นความรู้สึกที่มีทั้ง สุข ทุกข์ ปราบปลื้ม ทรมาน คิดถึง ห่วงใย จะเป็นจะตาย กระวนกระวาย บ้า ฯลฯ ต้องใช้หัวใจในการรับชม ผู้มีรักอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ จึงไม่ควรที่จะมีรักไปตามลำพัง
กว่าจะประสบความสำเร็จ ทุกคนต่างก็พบกับความเจ็บปวด ความเหนื่อยล้า ความท้อแท้ ความล้มเหลว แต่สิ่งเหล่านี้แหล่ะมันทำให้ความสำเร็จของเรามีความหมาย
คำว่า "คิดถึง" เก็บไว้นาน มันก็ออกดอกออกผลในใจ สุดท้ายล้นออกทางปาก
รักที่เกิดจากเหตุและผล ไม่ยั่งยืนเท่ารักที่เกิดจากความรู้สึก
คู่ที่รักกันมั่นคงและยั่งยืนที่สุด คือคู่ที่อยู่ด้วยกันด้วยความรัก มีความรัก ความห่วงใย ความปรารถนาดีต่อกันเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะมีเรื่องร้ายๆเข้ามาในชีวิต ความรักที่ทั้งสองมีต่อกันจะช่วยให้ผ่านอุปสรรคไปได้ หากทั้งคู่ไม่ได้รักกันจริง ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ถ้าการอยู่ด้วยกันไม่ได้มาจากความรัก เมื่อมีอุปสรรคก็จะมีการถามหาคนรับผิดชอบ เพราะใจเขาไม่ได้หลอมเป็นดวงเดียวกันตั้งแต่แรก

บางคู่ ต้องแต่งงานด้วยเหตุผล เพราะเกรงใจ
บางคู่ ต้องแต่งงานด้วยเหตุผล เพราะฐานะทางสังคมสูงเสมอกัน
บางคู่ ต้องแต่งงานด้วยเหตุผล เพราะไม่มีตัวเลือกอื่น
บางคู่ ต้องแต่งงานด้วยเหตุผล เพราะ…………………………………

ไม่ ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ เมื่ออุปสรรคเกิดขึ้น ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะความรัก สิ่งเหล่านั้นจะเป็นเหตุผลในการปัดความรับผิดชอบ และเลิกลากันในที่สุด

มันเป็นเหมือนปืนที่อยู่ในมือทั้งคู่ และทั้งคู่พร้อมจะยิงอีกฝ่ายให้ร่วงเมื่อมีโอกาส
จุดจบของความรักคือการจากลา ไม่ช้าหรือเร็วมันก็ต้องเกิด แต่เรายังหลงเสวยสุขที่เกิดจากความรักจนมองไม่ออกเลยว่า "การจากลาทำให้ความรักจบบริบูรณ์"
สติที่รู้ทัน เหมือนน้ำที่ดับไฟ ถึงยอมให้มันไหม้ต่อไป ไฟก็อยู่ในการควบคุมของเรา
จีวร ถึงจะเปลี่ยนเด็กชาวนามาเป็นพระ แต่ไม่อาจเปลี่ยนสถานะความเป็นลูกได้
คนทั้งหมู่บ้านบอกว่า พ่อผมเป็นคนบ้า แต่คนไม่กี่คนที่เห็นคนบ้านั่งกอดขาพระลูกชายที่เดินไม่ได้ พร้อมพูดทั้งน้ำตาว่า"ไผเฮ็ดมึงนุ พ่อมีลูกผูเดียว คันอยู่บ่ได้กะสิกออกมา พ่อสิเลี้ยงเอง"
คนที่ไม่มีพ่อคือคนที่อยากให้พ่อเป็นเหมือนพ่อของคนอื่น ส่วนคนที่มีพ่อคือคนที่พอใจในสิ่งที่พ่อมีพ่อเป็น
ความรักไม่ใช่วิทยาศาสตร์ ที่จะเดินตามกันแล้วสำเร็จเหมือนกัน มันมีรูปแบบเฉพาะคู่ และมีผลออกมาไม่แน่นอน
Google ถึงจะค้นหานิยามของคำว่า "รัก" ให้คุณได้ แต่ไม่มีทางเอา "ความรู้สึกรัก" มาให้คุณได้
ถ้าเราหลับ เราจะไม่รู้ความเป็นไปรอบตัวเลย เพื่อนจะเอาสีมาระบายหน้าเรา เราก็ไม่รู้ งูจะฉกเราก็ไม่รู้ เราจะรู้ก็ต่อเมื่อเราตื่น นี่เป็นรูปธรรมที่ตาเรามองเห็น มันไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ถ้าใจเราหลับด้วยอำนาจความโลภ ความโกรธ ความหลง มันยิ่งน่ากลัว มันตื่นได้ยาก และโทษมันก็มากด้วย กี่ครั้งที่เราต้องเสียน้ำตาเพราะความรัก กี่ครั้งที่เราต้องเจ็บตัวเจ็บใจเพราะความโกรธ กี่ครั้งที่เราต้องสูญเสียอะไรต่อมิอะไรเพราะความหลง แต่เมื่อไรใจเราตื่น เราก็จะมองเห็นภัยมืดที่ไม่สามารถเห็นด้วยตานั้นได้ มันไม่มีอะไรเลย ทุกสิ่งทุกอย่างใจเราสร้างขึ้นมา ถ้ามีสติตลอดความโลภ ความโกรธ ความหลงมันไม่มีโอกาสตั้งครรภ์หรอก
เมื่อความผิดหวังมาเยือน เรามักคิดว่าเวลาจะช่วยเราได้ แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าเวลาแค่ทำให้เราหยุดร้องไห้ ไม่ได้ทำให้เราหยุดรัก
สติ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา สติ เป็นเครื่องมือไม่ให้เราสร้างปัญหาเท่านั้น
ความโลภ ความโกรธ ความหลง มันเป็นคุกขังใจเรา และเราก็มักเป็นคนสร้างคุกขังใจตัวเอง
หลายคนมักจะคิดว่า "เราจะใส่ข้อจำกัดให้ชีวีตทำไม อยากกิน อยากเที่ยว อยากพูด อยากทำอะไรก็ทำไป ไม่เดือดร้อนใคร" ทำไมไม่คิดบ้างว่า"ทำไมเราต้องตามใจกิเลส" ขัดใจมันบ้างสิ ฝึกการไม่ทำตามกิเลสบ้าง พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า ทนฺโต เสฏฺโฐ มนุสฺเสสุ ในหมู่มนุษย์ทั้งหลาย ผู้ฝึกตนดีแล้ว เป็นผู้ประเสริฐสุด
เราไม่เคยเป็นคนเก่า แต่เราคือคนปัจจุบัน คำว่าคนเก่าอาจดูดี แต่มันไม่ใช่ความจริง ความจริงแท้แน่นอนคือ เราคือคนปัจจุบัน และคนปัจจุบันของเราก็เปลื่อนเป็นอดีตเพียงชั่ววินาทีที่ผ่านไป
กรอบของการปฏิบัติธรรม มันไม่ได้อยู่ที่การนั่งหลับตากำหนดลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว แต่มันคือการเป็นคนดีตลอดเวลา ไม่ใช้เห็นเขาไม่เข้าวัด ก็หาว่าเขาไม่ปฏิบัติ หรือตัวเองเข้าวัดปฏิบัติธรรม แต่พอออกจากวัดก็เที่ยวว่าคนโน้น ด่าคนนี้ อย่างนี้เขาเรียกว่าปฏิบัติแค่เอาหน้า การปฏิบัติไม่จำเป็นต้องไปวัด อยู่ที่ไหนก็ปฏิบัติได้ อยู่บ้านเป็นลูกที่ดีของพ่อ-แม่ หรือเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูก เป็นเพื่อนบ้านที่ดีของคนทุกคน อันนี้เขาก็เรียกว่าปฏิบัติธรรม
อุดมการณ์ที่ดี ถ้าเพียงคิด มันก็สำเร็จได้แต่เพียงในความคิด ถ้าลงมือทำ มันก็สำเร็จเป็นรูปธรรมที่ตนเองและผู้อื่นสัมผัสได้
จำไม่ได้ไม่ใช่สิ่งน่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือไม่รู้จักคิด
ดับความอยาก ไม่ยาก อย่างที่คิด     เพียงฝึกจิต ให้รู้ทัน มันเข้าไว้
รู้ว่าอยาก ก็อย่า ไปเผลอใจ             เพราะพิษภัย มันร้ายนัก ยากจักลืม
แม่น้ำที่อยู่สูง ย่อมเป็นแม่น้ำที่เล็กกว่า แม่น้ำที่อยู่ต่ำ เป็นผู้นำต้องอยู่อย่างต่ำ กระทำอย่างสูง
ประสบการณ์โง่ๆสามารถทำให้เราฉลาดขึ้นได้
การวิ่งหนีความทุกข์ ไม่สามารถทำให้เรามีความสุขได้ เพราะความทุกข์มันยังมีชีวิตอยู่ แต่การปรับตัวให้อยู่กับความทุกข์ได้ จะสามารถทำให้เรามีความสุขได้ อย่างไม่เดือดร้อน
ทำงานที่ทำให้มีความสุข ดีกว่าทนทุกข์อยู่กับงานที่ไม่ใช่
คุณค่าของหนังสือไม่ได้อยู่ที่ราคา ความสวย หรือขนาดของเล่ม แต่มันอยู่ที่ "เราได้อ่านมันหรือเปล่า"
ใครรักกัน เพราะหน้าตา คนๆนั้นมักจะมองหน้าตา เป็นรักแท้
ใครรักกัน เพราะฐานะ คนๆนั้นมักจะมองฐานะ เป็นรักแท้
ใครรักกัน เพราะชื่อเสียง คนๆนั้นมักจะมองชื่อเสียง เป็นรักแท้
ใครรักกัน เพราะการศึกษา คนๆนั้นมักจะมองการศึกษา เป็นรักแท้
ใครรักกัน เพราะความรัก คนๆนั้นมักจะมองความรัก เป็นรักแท้
ตั้งแต่เด็ก ผมถูกสอนมาว่า ทุกอย่างไม่เที่ยง ผมเชื่ออย่างนั้นมาตลอด แต่เมื่อผมได้รู้จักกับความรัก ผมมีความรู้สึกว่า สิ่งที่ผมเรียนมา "มันอาจไม่จริง"
เมื่อคุณถูกปฏิเสธความรัก เปรียบเหมือนคุณได้"ใบเหลือ" แต่หากคุณไม่ยอมรับแล้วไปโวยวายกรรมการ คุณกำลังเสี่ยงจะโดน "ใบแดง"
ในประเด็นเรื่องของความรัก อาตมามองว่า "หัวใจเป็นของเรา ความรักเกิดก็เพราะหัวใจเรา หากความรักจะจบ ก็จบเพราะหัวใจเราเลิกรักเขา มันไม่ได้จบเพราะหัวใจเขาเลิกรักเรา
จุดเริ่มต้นของความรักไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญคือปัจจุบันยังมีรักอยู่หรือเปล่า
ไม่มีคำว่าผิดพลาดอีกแล้ว สำหรับคนตาย หากยังไม่ตาย เราย่อมมีโอกาสผิดพลาดอยู่เสมอ
การให้ที่ไม่ต้องลงทุน คือการให้อภัย
เนื้อแท้จริงๆของความรักเป็นความสุข จะรักแท้หรือไม่ก็ตาม แต่มันก็เป็นมูลเหตุแห่งความทุกข์ ถ้าเลิกกันแล้วเรายังมีความทุกข์ นั่นเป็นเพราะว่าเรายังมีความรัก แต่ถ้าเลิกกันแล้วเรามีความสุข แสดงว่าความรักหมดจากใจเราจริงๆ หากคุณหรือเขากำลังเป็นทุกข์เพราะการกระทำของของอีกฝ่าย นั่นแสดงว่า"ความรักยังมีชีวิตอยู่
กิเลสตัณหาเป็นของคู่กายเรา มันจะเกิดกับเราอยู่เรื่อยๆ ส่วนความทุกข์เป็นเพียงสิ่งแปลกปลอม เรามีกิเลสได้ แต่เราไม่จำเป็นต้องมีทุกข์
การได้ทำตามสิ่งที่ตัวเองหวัง มันเป็นความสุข แต่มันไม่ยั่งยืนเสมอไป การได้ทำตามสิ่งที่ถูกต้อง อยู่ในธรรม อาจจะให้ความสุขไม่มาก แต่ความสุขมันยั่งยืน
ธรรมะมันไม่จำเป็นต้องออกจากปากพระ จะออกจากอะไรก็ได้ แต่ขอให้มันเป็นธรรมะ
จุดสูงสุดของความรัก คือ การมีโอกาสได้รัก
ความรักไม่ได้ทำให้เราเจ็บ แต่ที่เราเจ็บ เพราะเรามีความหวัง ลดความหวังลง เพิ่มความรักให้มากขึ้น เราจะมีความสุขกับความรัก
หากคนรักเดินจากไป แต่เรายังมีความรักอยู่ นั่นเป็นเพราะว่า ความรักเกิดจากใจของเรา และเขาไม่ใช่ตัวแปลของความรักของเรา มีเขาเราก็รัก ไม่มีเขา เราก็ยังรักเหมือนเดิม
ยอดฝีมือไม่เกี่ยงอาวุธ จอมยุทธ์ไม่เกี่ยงกระบี่

ที่มา : ubuntuclub.com
รักแท้ ไม่ได้อยู่ในอดีต ไม่ได้อยู่ในอนาคต แต่มันอยู่ในปัจจุบัน
กระบี่อยู่ที่ใจ หากเยี่ยมยุทธแล้วไซร้ แค่กิ่งไผ่ก็ไร้เทียมทาน

ที่มา : Aphichit แห่ง ubuntuclub
อยู่ในสังคมของคนที่มีกิเลสแตกต่างกัน เราไม่ควรทำทุกอย่างที่อยากทำ พูดทุกอย่างที่อยากพูด เพราะคนทุกคนไม่สามารถรับความจริงทุกอย่างได้ทุกคน ควรศึกษา กาลเวลา สถานที่ และคน ก่อนที่จะพูดหรือทำอะไร
การพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดและทรมารที่สุด คือ การพ่ายแพ้ต่อกิเลส
เราตั้ง"ชัยชนะ"เป็นเป้าหมายในชีวิตเอาไว้ เราจึงพบความทุกข์อยู่เรื่อยๆ หากเราเข้าใจชีวิตว่า"ชีวิตไม่จำเป็นต้องชนะ ความต้องการของสิ่งมีชีวิตทุกชีวิต คือความสุข เพียงเราเข้าใจหลักข้อนี้ ไม่ว่าแพ้หรือชนะ เราก็จะมีความสุข"
ทุกครั้งที่เกิดเรื่องแย่ๆในใจ มันอาจจะแย่ในช่วงแรก แต่ในระยะยาว เรื่องแย่ๆมันจะเป็นเหมือนวัคซีน ทำให้ใจเราแกร่งขึ้น
คนที่ดีไปทุกอย่างมันคงไม่มี แต่มันไม่สำคัญหรอก สิ่งสำคัญคือ เราเลือกคบแต่สิ่งดีของคนก็พอ
ถ้าไม่ยึดติดกับปฏิทินที่มนุษย์กำหนดไว้ เราก็จะตื่นมาพบกับ วันใหม่ เดือนใหม่ ปีใหม่ อยู่ทุกวัน
อกหัก กับ แอบรักข้างเดียว มันเจ็บคนละแบบ ขึ้นอยู่กับว่า เราอยู่ในสถานะการณ์ไหน ไม่ต้องเถียงกันให้ยาก ขึ้นชื่อว่า "รัก" มันเป็นเหตุทำให้"เจ็บ"เสมอ
คำว่ากิเลส หลายคนคงเข้าใจ แต่คงเข้าใจแบบกว้างๆ วันนี้จะมาแนะนำให้เข้าใจแคบลง เพื่อจะได้นำไปวิเคราะห์ และสังเคราะห์กันต่อไป คำว่ากิเลสนี่ภาษาพระแบ่งออกเป็น ๓ ตัว คือ ๑.โลภะ ๒.โทสะ ๓.โมหะ กิเลส ๓ ตัวนี้ถือว่าเป็นหลัก กิเลสทั้งหมดทั้งมวลในโลกนี้มากมายขนาดไหนก็หนีไม่พ้น ๓ ตัวนี้

๑.โลภะ คือ อาการอยากได้มาเก็บไว้ ยึดมั่น ดึงเข้ามาใส่ตัวเอง อยากได้ อยากมี อยากเป็น เช่น ความรัก ความอร่อย ความสุข ความสนุก เป็นต้น

๒.โทสะ คือ อาการอยากขับใส ไม่อยางมี ไม่อยากเป็น ไม่อยากเห็น อยากเอาเอาออกไปไกลๆจากตัว เช่น ความอิจฉา ความโกรธ ความทุกข์ เป็นต้น

๓.โมหะ คือ อาการหลงงมงาย ความไม่รู้ เห็นถูกเป็นผิด เห็นผิดเป็นถูก เช่น การเห็นสัตว์พิการมีแขนเกินมีศีรษะเกิน หรือเห็นต้นไม้ที่ผิดแปลกจากปกติเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ความไม่รู้ว่าความสุขก็เป็นกิเลสชนิดหนึ่ง เป็นต้น (อาการของโมหะรู้ได้ยาก แต่ถ้ารู้เมื่อไหร่ก็หลุดจากโมหะทันที)
เราจะเรียกว่าเป็น"กิเลส"ได้ก็เพราะใจสร้าง เพราะเกิดในใจ
ส่วนสิ่งที่กายเป็น เช่น ความทุกข์ทางกาย อาการเจ็บกาย อาการปวดกาย ไม่จัดว่าเป็นกิเลส แต่สิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเพราะกิเลสเป็นต้นเหตุก็ได้
หากไม่มีชนชั้นล่าง ก็จะไม่มีชนชั้นบน การพยายามกีดกันชนชั้นล่างมันเป็นการสร้างปัญหา เป็นเรื่องยากที่จะให้คนต่างระดับกันมองเหมือนกัน การดิ้นรน วิถีชีวิต การศึกษามันต่างกัน การช่วยเหลือให้คนชั้นล่างมีชีวิตที่ดีขึ้น มีการศึกษาที่ดีขึ้น จะทำให้คนมองสังคมใกล้เคียงกันมากที่สุด การเรียกร้องความปรองดองในขณะที่คนยังมีชีวิตที่ต่างกัน มันคงเป็นเรื่องยากที่จะให้คนต่างระดับกันมองเหมือนกัน
หากมีโอกาสขอของวิเศษจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้หนึ่งอย่าง
คนขาขาด จะขอขา ซึ่งขาถือว่าเป็นเหมือนของวิเศษสำหรับเขา
คนตาบอด จะขอดวงตา ซึ่งถือว่าเป็นเหมือนของวิเศษสำหรับเขา
คนมือขาด จะขอมือ ซึ่งถือว่าเป็นเหมือนของวิเศษสำหรับเขา
คนตาย จะขอให้มีชีวิต ซึ่งถือว่าการมีชีวิตเป็นเหมือนของวิเศษสำหรับเขา
เราวันนี้มีของวิเศษพร้อมทุกอย่าง เรายังไม่พออีกหรือ วันนี้แค่มีลมหายใจเราก็ได้กำไรแล้ว
เราก็แค่ธาตุทั้งสี่ก่อตัวกันขึ้น แล้วสมมติตัวเองว่า"เป็นสิ่งมีชีวิต" สักวันเราก็ต้องกลับไปสู่ธาตุทั้งสี่เหมือนเดิม เราจะเป็นทุกข์กับเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปทำไม ...ทุกสิ่งเป็นเพียงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเรามีชีวิตเท่านั้นเอง มันไม่มีอยู่จริง รู้ตัวตอนนี้ ดีกว่ารู้เอาตอนแปลสภาพเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ
ชีวิตมันต้องมีลิมิต รู้ว่าสิ่งใดผิดก็อย่าทำมันเลย
คำว่า"หมดโอกาส"มีสำหรับคนตายเท่านั้น สำหรับคนที่ยังไม่ตาย ทุกอย่าง"เป็นไปได้เสมอ"
ความสุข ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของพุทธศาสนา
แก้วเปล่า เมื่อใส่น้ำลงไปย่อมมีน้ำ และเมื่อใส่น้ำลงไปมากๆ น้ำย่อมล้นออกจากแก้ว ใจคน เมื่อเติมกิเลสลงไปย่อมมีกิเลส และเมื่อเติมกิเลสลงเรื่อยๆ มันก็ย่อมล้นออกมาทางกาย วาจา ใจ
ไม่มีใครเป็นนางงามได้ตลอดไป ไม่มีใครเป็นนักร้องได้ตลอดกาล สมบัติที่พ่อแม่ให้มาเลี้ยงเราได้อย่างจำกัด ความรู้ความสามารถเท่านั้นที่จะเลี้ยงเราได้ตลอดกาล อย่าทิ้งการเรียนนะครับ
ความตาย ตามมุมมองของแพทย์ หรือนักวิทยาศาสตร์ คือการหยุดทำงานอย่างถาวรของสิ่งมีชีวิต
ความตาย ตามมุมมองของพุทธศาสนา คือการเริ่มต้นไปสู่ภพภูมิใหม่ตามบุญกรรมที่ทำไว้
ความสุข ความทุกข์ เป็นต้นเหตุของกิเลส มีความทุกข์เราก็อยากพ้นจากทุกข์(การอยากเอาออกไปเป็นภาวะของโทสะ) มีความสุขเราก็เกิดอยากยึดไว้นาน(การอยากยึดเก็บไว้ในตัวเราเป็นภาวะของโล ภะ) ความสงบ เป็นความสุขที่แท้จริง
โครงการวิทยุธรรมะออนไลน์
เนื่องจากมีความต้องการเผยแผ่ธรรมบนโลกอินเตอร์เน็ต เพราะโลกได้เปลี่ยนไปผู้คนอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น ผมจึงมีความคิดว่าการเผยแผ่ธรรมะต้องเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
  1. คนที่ต้องทำงานได้ฟังธรรมโดยไม่จำเป็นต้องหยุดงาน
  2. ฟังธรรมได้ตลอดเวลา
  3. ..........(ยังคิดไม่ออก) 
องค์ประกอบที่จะทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นมาได้
  1. ต้องมีค่าใช้จ่าย(ชื่อโดเมน.com ,เซิร์ฟเวอร์สำหรับกระจายเสียง ,พื้นที่ทำเว็บไซต์)
  2. ไฟล์เสียงธรรมะ
ระบบที่สามารถรับฟังได้
  1. คอมพิวเตอร์
  2. โทรศัพท์เคลื่อนที่(อันนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถ)
ท่านจะสามารถช่วยให้โครงการนี้สำเร็จได้อย่างไร
  • บริจากทรัพย์ตามกำลังศรัทธา
  • บอกต่อโครงการนี้ให้ผู้อื่นทราบ
  • บริจากไฟล์เสียงธรรมะ
โครงการนี้จะเกิดขึ้นได้ต้องขึ้นอยู่กับยอดการบริจาก โดยสามารถแจ้งการบริจากด้านล่าง หรือ sitphong@windowslive.com(ยังไม่ต้องบริจากเงินจริง) หากมีความเป็นไปได้ ผมจะเริ่มสร้างระบบขึ้นมาทันที โดยผมจะอาสาสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเอง
รับฟังตัวอย่างวิทยุออนไลน์ได้้ที่ http://www.sitphong.co.cc 

ค่าใช้จ่ายดูได้ที่ http://www.plathong.net/%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C.html